ถ้าคุณควรจะรู้จักโค้ชเทนนิสสักคน คนแรกๆที่คุณควรจะรู้จักน่าจะมีชื่อ Patrick Mauratoglou ทำไมเขาถึงดัง ก็เพราะเขาเป็นคนที่โค้ชให้กับ Sarena Williams ให้กลับมาเป็นแชมป์ระดับ Grand Slam โดยเมื่อครั้งแรกที่เขาเจอ Serena เขากลับพูดกับเธอว่า Serena Williems เป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จได้ค่อนข้างต่ำ (Under Achiever) จนทำให้ Serena ที่ตอนนั้นก็เป็นแชมป์เทนนิสระดับ Grand Slam มา 13 ครั้ง เป็นนักเทนนิสหญิงมืออันดับห้าของโลกถึงกับ ‘ฉุนขาด’
ตอนแรกเธอนึกว่า Patrick น่าจะอวยเธอเพราะคงอยากได้ลูกค้าที่เป็นระดับ World class แต่พอมาเจอโค้ชที่บอกว่า
‘ถ้าเธอไม่ตั้งใจจริงที่จะเป็นมือหนึ่งของโลกก็กลับไปเถอะ’
จนทำให้ Serena ต้องขอลองโค้ชคนนี้และตำนานของหนึ่งในนักเทนนิสหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกคนหนึ่งก็ได้เริ่มถูกเขียนขึ้น จนถึงขนาดที่ Netflix ทำเป็นหนังสารดดีมาแล้ว
และเมื่อ Patrick ได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า Champion Mindset! Coach Yourself, to win a life! ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน และนี่คือบทสรุปของหนังสือเล่มนั้นที่เขียนโดยโค้ชเทนนิสชื่อดังที่มีชื่อว่า “Patrick Mauratoglou” โดยใส่บทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้ได้ในการเป็นผู้นำตามแบบฉบับของ ADGES
ภาพแรก: ความกลัวที่เปลี่ยนโลกได้
ลองจินตนาการว่าคุณเป็นเด็กชายอายุ 15 ปี ที่เดินผ่านโรงเรียนด้วยสายตาลงต่ำ หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่มีคนเดินผ่านมา ไม่ใช่เพราะความตื่นเต้น แต่เพราะความกลัวอย่างสุดซึ้ง เกรดแย่ ถูกรังแก และสิ่งที่แย่ที่สุด คือการรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าจนไม่กล้าแม้แต่จะคุยกับใคร
นี่คือ Patrick Mouratoglou โค้ชระดับตำนานของ Serena Williams ใช้ชีวิตในช่วงแรกของเขา ก่อนที่เขาจะค้นพบ “สูตรลับ” ที่เปลี่ยนเด็กขี้อายให้กลายเป็นคนที่สามารถปลดล็อกศักยภาพจากนักกีฬาระดับโลกได้ เรื่องราวนี้จะเปลี่ยนมุมมองของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นไปได้ในชีวิตและการทำงาน
ช่วงเวลาที่เปลี่ยนทุกสิ่ง: เมื่อความฝันถูกทำลาย
วันที่ Patrick อายุ 15 ปีชอบเล่นเทนนิสเป็นชีวิตจิตใจ แต่พ่อแม่ตัดสินใจห้ามไม่ให้เขาเล่นเทนนิสอาชีพ ในขณะนั้น เขารู้สึกว่าโลกใบนี้ไม่มีความยุติธรรม ชีวิตจบแล้ว แต่ 10 ปีต่อมา เขาได้ค้นพบความจริงที่เปลี่ยนชีวิตเขาตลอดกาล
“ผมล้มเหลวในการโน้มน้าวพ่อแม่ นั่นเป็นความรับผิดชอบของผม ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา”
การเปลี่ยนแปลงนี้ฟังดูเรียบง่าย แต่มันคือจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด การเปลี่ยนจาก “เป็นความผิดของคนอื่น” เป็น “ผมจะทำอย่างไรให้ดีกว่า” จนถึงรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง คุณเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าโลกไม่ยุติธรรมบ้างไหม? Patrick สอนเราว่า ช่วงเวลาเหล่านั้นคือโอกาสทองในการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อไม่มีใครช่วยได้ เราต้องพึ่งตัวเอง และนั่นคือจุดที่พลังแท้จริงเริ่มต้น
วิทยาศาสตร์การสร้าง Champion: ทำความเข้าใจกลไกของการเปลี่ยนแปลง
หลักการที่ 1: Little Victories – ชัยชนะเล็กๆเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความยิ่งใหญ่
Patrick อธิบายแนวคิดที่ว่า “เราคือผลรวมของประสบการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน 10-100 ครั้งต่อวัน เป็นเวลาหลายปี” เสียงแห่งความมั่นใจหรือความสงสัยในตัวเองถูกสร้างขึ้นจากประสบการณ์เหล่านี้ ลองคิดดู: เด็กที่เรียนรู้เดิน เขาล้มได้ 100 ครั้ง 1,000 ครั้ง แต่ลุกขึ้นใหม่เสมอ เพราะพวกเขายังไม่รู้จักคำว่า “การตัดสิน” ไม่รู้จักคำว่า “ล้มเหลว” พวกเขาแค่ลองใหม่
สำหรับผู้ใหญ่ เราต้องกลับไปหาจิตวิญญาณแบบนั้น แต่ทำอย่างมีกลยุทธ์ ไม่ต้องปีนเขา Everest ทุกวัน แค่ทำสิ่งเล็กๆ ที่ทำได้ แต่เป็นสิ่งที่เมื่อวานทำไม่ได้
หลักการที่ 2: Progress Zone – ดินแดนแห่งการเติบโต
การอยู่ใน Comfort Zone เปรียบเหมือนการออกกำลังกายด้วยน้ำหนักที่เบาเกินไป กล้ามเนื้อจะไม่โต Progress Zone คือการเพิ่มน้ำหนักเล็กน้อย เพียงพอที่จะสร้างการเติบโต แต่ไม่มากจนเกิดการบาดเจ็บ Patrick เปรียบเทียบว่า “เมื่อคุณใช้เวลาทั้งหมดใน Comfort Zone คุณจะไม่อยากไป Progress Zone แต่เมื่อคุณอยู่ใน Progress Zone เป็นประจำ ผมรัก! ผมเบื่อมากใน Comfort Zone มันน่าเบื่อสุดๆ”
หลักการที่ 3: Inner Dialogue – การปฏิวัติเสียงข้างใน
สิ่งที่ Patrick ค้นพบจากการทำงานกับนักกีฬาระดับโลก คือพวกเขายังคงมี “เสียงในหัว” ที่ทำลายกำลังใจตัวเอง นักเทนนิสที่เขาเคยฝึกจะพูดว่า “ผมแพ้ Break Point อยู่เสมอๆ”
แต่เราอาจจะคิดใหม่ว่า “เมื่อมีโอกาสครั้งหน้า ผมจะทำให้ได้”
คำพูดที่เราใช้กับตัวเองมีพลังในการสร้างสรรค์หรือทำลาย “สิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับตัวเองจะเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นในแง่บวกหรือลบ”
ความจริงที่ช็อค: แม้แต่ Roger Federer ก็แพ้ 46% ของแต้มที่เล่น
Patrick เผยข้อมูลที่น่าทึ่ง: Roger Federer ผู้ยิ่งใหญ่ที่ชนะ Grand Slam 20 สมัย ชนะเพียง 54% ของแต้มที่เล่นตลอดอาชีพ นั่นหมายความว่าเขาแพ้เกือบครึ่งหนึ่งของทุกแต้มที่เล่น!
นี่เปลี่ยนการรับรู้เรื่องความสำเร็จโดยสิ้นเชิง ความสำเร็จไม่ได้มาจากการไม่เคยล้มเหลว แต่มาจากการจัดการกับความล้มเหลวได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับผู้นำองค์กร นี่หมายความว่าการสร้างทีมที่แข็งแกร่งไม่ได้เกิดจากการหลีกเลี่ยงความผิดพลาด แต่เกิดจากการสร้างวัฒนธรรมที่คนกล้าลอง กล้าผิด และเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น ที่สำคัญถ้าเรามีข้อมูลสนับสนุนอาจจะทำให้เราเปลี่ยนมุมมองในเรื่องของความผิดพลาดก็ได้
เคล็ดลับการจัดการความกดดัน: บทเรียนจาก Serena Williams
เมื่อ Serena เล่น US Open Final เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หลังจากชนะ Grand Slam 4 สมัยติดต่อกัน Patrick อธิบายว่า “เธอไม่ได้เล่นเพื่อแค่ชนะแมตช์ เธอเล่นเพื่อประวัติศาสตร์” จินตนาการถึงช่วงเวลาที่เครียดที่สุดในชีวิตคุณ แล้วคูณด้วย 100 นั้น”คือสิ่งที่ Serena ต้องรับมือ ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น ความกดดันจะยิ่งมากขึ้น การรู้จักจัดการกับความกดดันโดยไม่หาข้ออ้าง เป็นทักษะที่แยกผู้นำที่แท้จริงออกจากคนธรรมดา
สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้นั้นคือ การมี “Compassion” ต่อตัวเองและผู้อื่น เข้าใจว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ และเป็นโอกาสในการเรียนรู้
องค์กรสามารถเรียนรู้เรื่องของ Champion Mindset โดยเปลี่ยนมุมมองจาก Performance Management สู่ Mindset Development
เปลี่ยนจากการประเมินผล เป็นการสร้าง Little Victories
แทนที่จะรอถึงการประเมินผลประจำปี ให้สร้างระบบที่ทีมงานได้รับ “ชัยชนะเล็กๆ” ทุกวัน อาจเป็นการทำงานเสร็จภายในเวลา การแก้ปัญหาที่ท้าทาย หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่
สร้างวัฒนธรรม “Everything is in Your Control”
Patrick เชื่ออย่างแรงกล้าว่า “ทุกอย่างอยู่ในมือคุณ ทุกอย่าง” เมื่อนักกีฬาแพ้และบอกว่า “สนามไม่เหมาะกับผม” เขาจะถาม “แล้วคุณเตรียมตัวยังไงบ้าง? คุณวางแผนยังไง?”
ในองค์กร แทนที่ทีมงานจะบอกว่า “ลูกค้าไม่เข้าใจ” หรือ “ตลาดไม่ดี” ให้สอนพวกเขาถามว่า “เราจะทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้าใจ? เราจะปรับกลยุทธ์อย่างไรให้เหมาะกับตลาด?” นั้นคือเราเอาชะตากรรมกลับมาอยู่ในมือของเรามากกว่าที่ฝากไว้กับคนอื่น
พัฒนาทักษะ Inner Coaching
เหมือนที่ Patrick ฟังนักกีฬาพูดทำลายกำลังใจตัวเองระหว่างแข่ง ผู้นำต้องเรียนรู้การสังเกตและปรับเปลี่ยน Inner Dialogue ของตัวเองและทีม เราสามารถเปลี่ยนความคิดจากจาก “โปรเจกต์นี้เป็นไปไม่ได้หรอก” เป็น “เรายังไม่พบวิธีที่เหมาะสม แต่เราจะหาทางแก้ไขให้ได้”
ความลับของความกดดัน
Patrick เปิดเผยความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ นักกีฬาระดับโลกที่มีประสบการณ์ 15 ปียังคงเครียดและกลัวก่อนแข่งทุกครั้ง ความแตกต่างคือพวกเขารู้จักทำงานร่วมกับความกลัวนั้น
เขาเล่าถึงความกดดันของ Serena ที่ต้อง “เล่นเพื่อประวัติศาสตร์” และเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น ระดับความเครียดจาก 10 อาจจะกลายเป็น 100 ในช่วงวินาทีดังนั้น ผู้นำที่แท้จริงไม่ใช่คนที่ไม่เคยกลัว แต่เป็นคนที่รู้จักนำความกลัวมาใช้ประโยชน์
กลยุทธ์ระดับ World Champion สำหรับ Leader
กลยุทธ์ที่ 1: The 75% Win Rule
Patrick บอกโค้ชทีมหนุ่มๆ ว่า “ผมต้องการให้นักกีฬาชนะ 75% ถ้าการแข่งขันนั้นมันยากเกินไป ก็ให้ไปแข่งสนามที่ง่ายกว่า”
เหตุผลที่แท้จริงก็คือ การสร้างความมั่นใจต้องสะสมจากชัยชนะ เมื่อ Champion เจอปัญหาในแมตช์ พวกเขาจะได้ยินเสียงบอกว่า “เราผ่านมาแล้ว 100 ครั้ง ครั้งนี้เราก็สามารถผ่านมันไปได้” แต่ถ้าเคยแพ้ 80% เสียงในหัวจะบอกว่า “เอาอีกแล้ว เรากำลังจะแพ้อีกแล้ว”
กลยุทธ์ที่ 2: The Zero Excuse Philosophy
Patrick เล่าว่าเมื่อนักกีฬาแพ้ มักจะหาข้ออ้าง: “สนามไม่เหมาะ” “คู่แข่งเล่นดีผิดปกติ” “โชคไม่ดี” แต่เมื่อหาข้ออ้าง คุณเรียนรู้อะไรไม่ได้เลย เขาสอนว่า “เมื่อคุณรับผิดชอบ คุณจะได้พลังในการควบคุมและเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณหาข้ออ้าง คุณกลายเป็นเหยื่อของสถานการณ์”
กลยุทธ์ที่ 3: The Serena Strategy – เป็น Best Supporter ของตัวเอง
Patrick เล่าว่า Serena มีคำพูดที่เขาชื่นชอบมาก: “Be your best supporter”
ในโลกที่เต็มไปด้วยการตัดสิน หากเราไม่สนับสนุนตัวเอง แล้วใครจะทำ? การใจดีกับตัวเองไม่ใช่การตามใจ แต่เป็นการเข้าใจว่าการเรียนรู้ต้องผ่านความผิดพลาด
จุดแยกระหว่าง Good กับ Great: เรื่องของ Mindset
Patrick อธิบายถึง Serena ว่า “เธอมีพรสวรรค์พิเศษ มีอาวุธที่แข็งแกร่ง แต่หากเธอไม่คิดและประมวลผลแบบ Serena หรือมี Serena Mindset เธอจะไม่เคยกลายเป็น Serena เธอจะเป็นแค่นักกีฬาที่เก่ง แต่ไม่ใช่แชมป์ที่ยอดเยี่ยม” นี่คือความจริงในโลกธุรกิจ หลายคนมีความสามารถสูง แต่เมื่อถึงจุดสำคัญ สิ่งที่แยกผู้นำระดับ World Class ออกมาคือ Mindset ไม่ใช่ Technical Skills
การปฏิวัติ HR: สร้างระบบพัฒนาผู้นำรูปแบบใหม่
ระบบ Champion Development Program:
Week 1-2: Self-Awareness Building ให้ทีมสังเกต Inner Dialogue ของตัวเอง บันทึกเสียงในหัวที่เป็นลบ และฝึกเปลี่ยนเป็นประโยคที่สร้างสรรค์
Week 3-4: Little Victories Design ให้แต่ละคนกำหนด “ชัยชนะเล็กๆ” ที่จะทำทุกวัน และมีระบบ Celebrate ผลสำเร็จเหล่านั้น
Week 5-8: Progress Zone Challenge ให้ทีมลองทำสิ่งที่อยู่นอก Comfort Zone ทีละเล็กทีละน้อย พร้อมระบบสนับสนุนที่เหมาะสม
Week 9-12: 100% Responsibility Mindset ฝึกให้ทุกคนถามคำถาม “ผมจะทำอย่างไรให้ดีกว่า?” แทนการหาข้ออ้างเมื่อเกิดปัญหา
ความจริงเบื้องหลังความยิ่งใหญ่
Patrick เล่าว่า Serena หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ จะนั่งดูเทนนิสต่อเพื่อหาสิ่งที่จะปรับปรุง ในขณะที่นักกีฬาอันดับโลก Top 50 คนอื่นบอกว่า “เล่นเทนนิสทั้งวันแล้ว กลับบ้านจะไปดูเทนนิสอีกทำไม? บ้าหรือเปล่า?”
นั่นคือความแตกต่างระหว่าง “Good” กับ “Great” – Passion และความหลงใหลในการเติบโตแบบไม่มีขีดจำกัด
การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้: จากความกลัวสู่การสร้างแชมป์
Patrick สรุปว่า “ทุกคนสามารถมี Champion Mindset ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมไม่คิดว่าผมมี Mindset ที่ดีที่สุด แต่ผมมี Mindset ที่ดีพอสำหรับความสำเร็จ”
“เมื่อผมอายุ 15 ปี ผมเป็นคนที่ไม่พร้อมที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ แต่เมื่ออายุ 26 ปี ผมพร้อมแล้ว”
การเปลี่ยนแปลงนี้ใช้เวลาเพียง 11 ปี แต่สร้างผลกระทบต่อโลกกีฬาและการพัฒนาผู้นำตลอดไป
Call to Action สำหรับผู้นำองค์กร
เรื่องราวของ Patrick พิสูจน์ว่า: การพัฒนาผู้นำที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การสอนเทคนิค แต่อยู่ที่การปลูกฝัง Champion Mindset
ถ้าเด็กขี้อายที่กลัวการสบตาสามารถกลายเป็นโค้ชของแชมป์โลกได้ ผู้นำในองค์กรของคุณก็สามารถปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองได้เช่นกัน
เริ่มต้นวันนี้:
- สร้าง Little Victory แรกให้กับทีม
- สอนให้พวกเขารับผิดชอบ 100%
- ช่วยพวกเขาเปลี่ยน Inner Dialogue
- และที่สำคัญที่สุด เป็น Best Supporter ให้กับทีมในเส้นทางการเติบโต
เพราะในท้ายที่สุด Champion ไม่ได้เกิดมาพร้อม แต่ถูกสร้างขึ้นมาด้วย Mindset ที่ถูกต้อง
ADGES: เราช่วยเปลี่ยนทีมงานธรรมดาให้กลายเป็น High-Performance Team ด้วย Champion Mindset ที่พิสูจน์แล้วจากระดับโลก