“Teaching is the profession that makes all other professions possible” – Sir Ken Robinson

บันทึก Congratulations Speech โดย ดร. ณัฐวุฒิ กุลนิเทศ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งบริษัท แอดเจส จำกัด และกรรมการ Teach for Thailand

วันที่ 22 ตุลาคม 2568

สวัสดีครับ Fellows ทุกท่าน

สิบปีที่แล้ว ผมเองก็ได้รับแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าเมื่อได้รู้จักพันธกิจของ Teach For Thailand ในการสร้าง “ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ผมรู้สึกว่าต้องมีส่วนร่วมกับองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจนเช่นนี้ เพราะผมเองก็มีความเชื่อว่าการศึกษาไทยถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงซะที จึงขอเข้ามาเป็นวิทยากร workshop เพราะผมเชื่อว่า การเข้าใจตัวเองคือจุดเริ่มต้นของการช่วยให้ผู้อื่นเติบโต ก่อนที่จะเป็นคุณครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง

จากวันนั้นถึงวันนี้ ผมได้มีโอกาสทำงานกับ Teach For Thailand ในหลากหลายบทบาท ทั้งเป็นวิทยากร ที่ปรึกษา และปัจจุบันในฐานะกรรมการมูลนิธิ ผมยังคงทึ่งในพลังที่เกิดขึ้นเมื่อคนหนึ่งตัดสินใจเป็นครูผู้เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้อื่น

1.พวกเราในอดีต: เมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนแปลง

เราทุกคนในห้องนี้มีความทรงจำที่มีพลัง ช่วงเวลาที่ครูคนหนึ่งเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเรา ลองหลับตาสักครู่ นึกถึงใบหน้าของครูคนนั้น ครูที่มองเห็นแสงในตัวเราในขณะที่คนอื่นมองไม่เห็น ครูที่สละเวลาส่วนตัวเพื่อให้เราเข้าใจบทเรียนที่ยาก ครูที่บอกว่า “เธอทำได้” ในยามที่เราเองยังไม่เชื่อในตัวเอง

ครูเหล่านี้ไม่เพียงถ่ายทอดความรู้ พวกเขาจุดประกายความเป็นไปได้ ถักทอความกล้าหาญ และปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งการเปลี่ยนแปลงไว้ในตัวเรา จนวันหนึ่ง เราได้ยินเสียงกระซิบในใจว่า “ถ้าฉันจะเป็นครูคนนั้นให้กับคนอื่นบ้างล่ะ?” เสียงนั้นได้นำพวกเรามาสู่ Teach For Thailand

2.ปัจจุบัน: พลังของการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย Power of 1% Improvement

ตลอดสองปีที่ผ่านมา พวกเราได้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความฝันกับความเป็นจริง ระหว่างศักยภาพกับโอกาส ระหว่างวันนี้กับอนาคตที่สดใส เคยสงสัยไหมว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยสามารถสร้างผลกระทบมหาศาลได้อย่างไร?

เครื่องบินที่บินจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ หากนักบินปรับทิศทางผิดเพียงหนึ่งองศาตอนขึ้นบิน เครื่องบินจะบินคลาดจากเป้าหมายไปกว่า 13 km เลยทีเดียว แต่ถ้าเราบินลงใต้ไปภูเก็ต เราคงตกไปในทะเลอันดามันเป็นแน่แท้ นี่คือพลังที่พวกเรามีในฐานะครู คำพูดให้กำลังใจหนึ่งประโยค คำถามที่ท้าทายความคิดหนึ่งคำถาม หรือการสอนที่ปรับให้เหมาะกับผู้เรียนคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนจุดหมายปลายทางของชีวิตเด็กคนหนึ่งไปตลอดกาล

พวกเราเป็นครู เรารู้ดีว่า 1 ยกกำลัง 365 เท่ากับหนึ่ง แต่ 1% improvement ทุกๆวันในหนึ่งปี หรือ 1.01 ยกกำลัง 365 เท่ากับ 37.8 หรือถ้าเราถอยหลังลง 1% 0.99 ยกกำลัง 365 เท่ากับ 0.03 พวกเรากำลังสร้างการปรับปรุง 1% ทุกวัน ห้องเรียนที่ความเข้าใจในการอ่านเพิ่มขึ้น 1% ทุกสัปดาห์ จะจบปีด้วยนักเรียนที่อ่านได้สูงกว่าเดิมถึง 70% นักเรียนที่ได้รับความมั่นใจเพิ่มขึ้น 1% ทุกวัน จะกล้าเผชิญความท้าทายมากขึ้น 37 เท่าในเวลาเพียงสามเดือน การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้จะทบทวีไปสู่ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ ยาวนานเกินกว่าที่พวกเราจะจินตนาการได้

3.อนาคต: เส้นทางใหม่ของครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง

วันนี้เป็นจุดเปลี่ยนผ่าน Fellowship สองปีกำลังจบลง แต่การเดินทางของเราในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพิ่งเริ่มต้น

ผมต้องยอมรับอย่างเปิดเผยตรงนี้ว่า
ผมชื่นชมพวกเราทุกคนอย่างสุดซึ้ง ทุกครั้งที่ผมได้พูดคุยกับ Fellows ผมกลับมาพร้อมพลังและแรงบันดาลใจ พวกเราได้เลือกทำสิ่งที่ผมเองยังสงสัยว่าตัวเองจะมีความกล้าพอหรือไม่ การเข้าไปในห้องเรียนที่มีทรัพยากรจำกัดแต่ความต้องการมหาศาล และสร้างการเปลี่ยนแปลงทุกวัน 

ขณะที่เรายืน ณ ทางแยกนี้ ผมขอถามคำถามหนึ่งคำถาม:
อะไรคือสิ่งที่เรามุ่งมั่นจะทำต่อไป? อะไรคือความท้าทายที่เราหลงใหลมากจนยอมวางทุกอย่างลงเพื่อจัดการกับมัน? และสำหรับพวกเรา? เราได้เห็นการศึกษาไทยจากมุมมองที่คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสเห็น เราเข้าใจปัญหาและโอกาสในระดับที่สัมผัสได้ เราได้สร้างความสัมพันธ์ เอาชนะอุปสรรค และสร้างผลกระทบแม้ในสถานการณ์ที่ท้าทาย

Teach for Thailand ทำให้ผมได้รู้จักนักการศึกษาอีกท่านหนึ่งที่มีชื่อว่า Sir Ken Robinson 

Sir Ken ได้เคยกล่าวไว้ว่า “Teaching is the profession that makes all other professions possible” การสอนคืออาชีพที่ทำให้อาชีพอื่นๆ ทั้งหมดเป็นไปได้” พวกเราได้เป็นพลังสำคัญในชีวิตนักเรียน และตอนนี้ เรามีโอกาสที่จะขยายผลกระทบนั้นในวิธีใหม่ๆ

เขายังได้กล่าวอีกว่า “The role of a teacher is to facilitate creativity, to make the different possible, to inspire”  บทบาทของครูคือการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ความแตกต่างเป็นไปได้ และสร้างแรงบันดาลใจ
พวกเราได้ทำเช่นนี้ในห้องเรียนแล้ว แล้วต่อจากนี้ล่ะ? เราจะนำพลังนี้ไปสู่นโยบาย ผู้นำองค์กร ชุมชน หรือพื้นที่ใหม่ๆ ได้อย่างไร? 
สะพานแห่งการเรียนรู้

ผมขอจบด้วยเรื่องราวสั้นๆ ครั้งหนึ่งผมเคยถามครูใหญ่ของโรงเรียนลูกผมเกี่ยวกับการศึกษาและวิธีการเรียนรู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

เขาตอบอย่างเรียบง่ายว่า “การศึกษาเหมือนกับการสร้างสะพาน การเรียนรู้ก็เหมือนกับการสร้างสะพาน ทุกวันครูไปทำงานและสร้างสะพานนั้น เมื่อสะพานเสร็จสมบูรณ์ มันยากที่จะบอกว่าอิฐก้อนไหนหรือส่วนไหนของปูนที่ทำให้สะพานนั้นสำเร็จ แต่เราทุกคนรู้ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนั้น และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด”

วันนี้ สะพานที่พวกเราสร้างร่วมกันกับนักเรียนในห้องเรียนของเรา อาจไม่เห็นผลทันที และเราอาจไม่มีโอกาสเห็นว่าพวกเขาจะเดินข้ามสะพานนั้นไปถึงฝั่งฝันได้อย่างไร แต่อิฐทุกก้อนที่เราวางลงไป การเทปูนทุกครั้ง การขึงสายเคเบิลทุกเส้น ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้ก้าวข้ามอุปสรรค ไปสู่อนาคตที่พวกเขาเองอาจยังนึกภาพไม่ออก

ไม่ว่าเราจะเลือกเส้นทางใดต่อจากนี้ เราจะไม่มีวันหยุดเป็นผู้สร้างสะพาน เพราะการเป็นครูไม่ใช่เพียงอาชีพ แต่เป็นวิถีแห่งการมองโลก การมองเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในผู้อื่นและในตนเอง

ในวันนี้ เรามาร่วมกันสำรวจว่าพลังการเปลี่ยนแปลงที่เราได้ปลูกฝังมาสองปี จะเบ่งบานต่อไปอย่างไรในบทต่อไปของชีวิตเรา และในประวัติศาสตร์การศึกษาของประเทศไทย

ขอขอบคุณด้วยใจ ที่สร้างอนาคตของการศึกษาให้กับเด็กไทย 

ดร. ณัฐวุฒิ กุลนิเทศ

Leave a Reply