ADGES ได้สรุป Highlighted Topic เพื่อแบ่งปันบทเรียนดีๆ ที่ได้จากการ Company Visit ที่จัดขึ้นโดยทางสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับ True Digital Group และมีการเสวนาในหัวข้อ How to cultivate innovation spirits? – A lesson learned from True Digital โดย คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ (ประธานกรรมการ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป) และ ดร.ณัฐวุฒิ กุลนิเทศ (กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง ADGES) ในช่วงท้าย ดังนี้
“เพราะมาทีหลัง จึงต้องแตกต่าง“
จากที่คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ได้เล่าประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ด้วยความที่มาทีหลัง เริ่มต้นจากการเป็น Telecom Provider วาง Positioning เป็นแค่ Operator โดยไม่ได้มี Emotion Connectivity กับลูกค้าสักเท่าไหร่ True Digital จึงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เป็น Digital Connector เพื่อให้มีตัวตนในมุมมองของลูกค้า และสามารถสร้าง Customer Engagement นั่นจึงเป็นให้เราได้เห็นว่า True Digital มีธุรกิจอยู่ในมือหลากหลายประเภททั้งด้าน Medical, Agriculture, Financial และอื่นๆ อีกมากมาย
คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่าภาพที่เห็นในวันนี้ แน่นอนว่าไม่ได้เป็นภาพนี้ตั้งแต่วันแรก เป้าหมายของเราคือการทำให้ลูกค้าจดจำเราให้ได้ สิ่งแรกที่ True ทำคือการขายสินค้าหลายๆ อย่าง ซึ่งก็ไม่สามารถตอบได้ว่านี่คือแนวทางที่ถูกต้องหรือไม่ และเวลาเราทำธุรกิจก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งตลาดจะพอใจกับเราทั้งหมด อาจจะมีแค่คนกลุ่มนึงที่เชื่อในตัวเรา เมื่อสินค้าและบริการของเรามีความหลากหลาย ลูกค้าก็จะถูกรายล้อมด้วยเราและจดจำเรามากขึ้น นอกจากจะรายล้อมเค้าด้วย Multiple Product แล้ว เราก็ต้องขยับจาก Second Layer เป็น First Layer ให้ได้ อย่างปัจจุบันการเปลี่ยนเบอร์มือถือง่ายนิดเดียว แต่ถ้าเปลี่ยน Application ที่ใช้นั้นไม่ง่ายเลย เพราะเป็นทั้งในเรื่องของประสบการณ์การใช้ ข้อมูลต่างๆ นี่คือสาเหตุที่ True Digital Group ที่เราต้องทำให้แตกต่าง
“อะไรบ้างคือสิ่งที่ คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ มองว่าทำแล้วแตกต่างและจับต้องได้?”
ในการขับเคลื่อน Business Transformation ทางกลุ่ม True เริ่มจาก Direction และ Commitment จากทางผู้บริหาร เพื่อเร่งสร้าง Digital Tools ให้กับองค์กร อย่างการใช้ Data Analysis เพื่อสร้างกลยุทธ์และเพิ่มความคล่องตัว และที่สำคัญคือไม่ใช่เพื่อการทำ Digital Transformation แบบฉาบฉวย แต่เพื่อการสร้าง Digital Culture เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ผู้บริหาร ต้องมีความไวกับเรื่องของ Innovation เยอะมาก ซึ่งถ้ามองในระยะสั้นหากเราตัดเรื่อง Innovation ออกไป เราจะเห็นกำไรทันที แต่พอดำเนินธุรกิจไปแล้วเป็นอย่างไร แล้วเราจะไปถึงตรงไหนถ้าเราเป็นทั้งผู้ตามและไม่มี Innovation สิ่งนี้คือสิ่งที่คุณณัฐวุฒิมองว่าเป็น Commitment ของ Leader
การสร้างนวัตกรรมไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็น “a must” ที่องค์กรต้องนำมาสร้างความแตกต่าง ซึ่งการสร้าง Transformation Mindset ที่สำคัญคือ การเข้าไปสู่พื้นที่ที่เราไม่คุ้นเคย ถ้าเราไปที่ที่มีแรงโน้มถ่วงน้อย แน่นอนที่สุดเราต้องปรับตัว จะใช้ชีวิตแบบเดิมไม่ได้แล้ว การสร้างนวัตกรรมก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครเก่งคนเดียวได้ การสร้าง Collaboration กับ Partner รายอื่นๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ การสร้างนวัตกรรมนั้นใช้เวลา เรามักจะมองเห็นแค่ความสำเร็จตอนที่สร้างเสร็จแล้ว แต่ความจริงเป็นเหมือนยอดของภูเขาน้ำแข็งที่เราไม่ได้เห็นส่วนที่อยู่ใต้น้ำที่ขนาดใหญ่กว่ายอดเยอะ อย่ากลัวที่จะล้มเหลวเพราะยังไงก็ต้องเจออยู่แล้ว แต่ให้มองโลกในแง่ดีว่านั่นคือบทเรียนที่จะช่วยพาเราให้เข้าใกล้เส้นชัยและมีความมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป
วัฒนธรรมที่เสริมเรื่อง Innovation ต้องสร้างการมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คนรุ่นเก่าๆ ในองค์กรเริ่มล้าหลัง เริ่มตามเทรนด์ตลาดหรือผู้บริโภคไม่ค่อยทัน เราต้องฟังเด็กรุ่นใหม่และให้ผู้บริหารพูดเป็นคนสุดท้าย ต้อง Enforce หรือ Empower เรื่องของการตัดสินใจ ให้เด็กรุ่นใหม่ มีอิสระในการตัดสินใจ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ คิด Solution ใหม่ๆ ออกมา การ Transformation ที่ดีควรจะมี Process มารองรับ เครื่องมือใหม่ๆ หลายตัวเช่น Design Thinking
เรื่องของการ Co-Create กับลูกค้า Partner และ Start Up ก็สำคัญอีกเช่นกัน เพราะ True เองก็ไม่สามารถคิดหรือพัฒนาตามความเร็วของตลาดได้ทันทุกเรื่อง ความกว้างของสิ่งที่เราเป็นมันมีทางแยกอีกหลายทางที่เราจะเป็นเพิ่ม จำเป็นต้องทำเพิ่มแต่เรายังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน วิธีหนึ่งที่เราทำคือ ผู้บริหารสูงสุดต้องไปพบลูกค้า เพราะทุกครั้งที่ได้ออกไป ไอเดียใหม่จะเกิด รวมทั้งเรียนรู้ด้วยว่า เรายังต้องปรับปรุงตรงไหน ฟังจาก Head of sale ฟังจากทีม Sale ที่ค่อยๆ กลั่นกรองขึ้นมามันอาจจะตกหล่นไป อาจะเป็นเพราะ เค้าอาจจะไม่อยากบอกปัญหา หรือ ตัวพนักงานเองอาจจะมองได้ไม่ครบ อาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ แล้วก็ทำสิ่งเดิมๆ ตามความเคยชินที่เคยทำ แต่ถ้าตัวผู้บริหารลองลงไปเองแล้วเห็นภาพชัดขึ้น บางอย่างหากเราไม่ลงมือทำ ไม่เริ่มเปลี่ยนแปลง อาจจะมีคู่แข่งชิงทำก่อนก็เป็นได้
ในแต่ละ Business จะมี Requirement ของมันอยู่ ถึงจะมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมเราก็จริง แต่อย่างไรก็ตามเราต้องทำความเข้าใจ Pain Point เพื่อกลับมา Design ในส่วนของ Customer Journey อยู่ดี ส่วนเทคโนโลยีและนวัตกรรมคือตัวเสริม มองหา Pain Point ของลูกค้าแล้วเชื่อมโยงกับจุดแข็งขององค์กรเพื่อสร้างเป็น Competitive Strategy อย่างการที่ True เลือกที่จะลงมือทำในกลุ่ม Medical เพราะมองว่า อาหารคือยา ซึ่งบริษัทมีความถนัดในเรื่องอาหารอยู่แล้ว อีกทั้งมีข้อมูลที่สนับสนุนว่า 70% ของผู้ป่วยนอก (OPD) สามารถใช้ Telemedicine ในการรักษาได้ เลยทำให้เกิดธุรกิจอย่าง MorDee (หมอดี) ในการให้การบริการทาง Medical Digital Solution โดย Main Idea นั้นได้มาจากคุณหมอที่มี Insight เพราะเจอ Pain Point โดยตรงส่วนทาง True Digital ก็ยื่นมือเข้าไป Support ในเรื่อง Digital Platform
ถือเป็น Session ที่จุดประกายทางความคิดให้กับผู้บริหารระดับสูงในหลากหลายองค์กรที่มาในวันนี้ ขอขอบคุณทางสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับ True Digital Group อีกครั้งที่ร่วมกันจัดกิจกรรมดีๆ และขอขอบคุณ คุณณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ เจ้าบ้านและ Member ของ Community of Practice – Business Transformation & Leadership ของทาง Thai Institute of Directors (IOD) ที่ให้เข้าเยี่ยมชม True Digital Park ที่ทำให้ผู้ร่วมลงทะเบียนกว่า 80 ท่าน ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับสถานที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้าง Tech Ecosystem โดยเฉพาะ ได้เยี่ยมชม Data Center และ TK Park แต่สิ่งที่เหนือกว่า Hardware ตึกอาคาร ก็คือคนในองค์กรที่ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จออกมา
ADGES พัฒนาความเป็น Leadership และ Team Development เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาบุคลากรให้เหมาะสมกับองค์กรและคุ้มค่าต่อการลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ADGES e-mail: info@adges.net หรือ 088-028-1111 หรือเว็บไซต์ www.adges.net
1 Comment
Evedry weekend i used to pay a quick visit this web site, for the reason that i wish for enjoyment, as this
this web site conations actually nnice funny information too.
Feel free to viit my page – Georgia debit card
Comments are closed.