The Leadership Elements

ภาวะผู้นำ (Leadership) คือ ความสามารถในการโน้มน้าวหรือชักจูงผู้อื่นให้ปฏิบัติตามแนวทางหรือเป้าหมายที่ผู้นำกำหนดไว้ ภาวะผู้นำเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของทุกองค์กรเพราะผู้นำจะเป็นผู้ที่กำหนดทิศทางและนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้

ในยุคปัจจุบัน ภาวะผู้นำไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความสามารถในการบริหารงานหรือการจัดการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และนำพาองค์กรไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนอีกด้วย

ธาตุทั้ง 5 ซึ่งมาจากธาตุตามธรรมชาติสี่ธาตุ และอีกหนึ่งธาตุตามความเชื่อในหลักศาสนาของชาวตะวันออกมาเรียงร้อยตามทฤษฎีของการจัดการ หลักการทางด้าน Personality 

1. Appreciation – EARTH หรือธาตุดิน พื้นดินที่เราเหยียบเป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเรา คุณค่าที่เรายึดถือ แรงจูงใจในการใช้ชีวิต องค์กรก็เป็นส่วนขยายของตัวเรา และองค์กรยังเป็นส่วนย่อของจักรวาล (Universe) ถ้าเราอยู่ในองค์กรที่ไม่มีพื้นแผ่นดินที่เราจะสามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของเรา แน่นอนที่สุดพนักงานในองค์กรคงไม่มี Sense of Belonging แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าองค์กรไหนมีธาตุดินมากจนเกินไป อาจจะเกิด Comfort zone เกิดความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมเดิม การมองไม่เห็นคุณค่าของการออกมาจากกรอบเดิมๆ องค์กรเองย่อมที่จะอยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน  

2. Association – WATER หรือธาตุน้ำ ทุกครั้งเมื่อเรามองเห็นน้ำ เรามักที่จะมองเห็นชีวิต ความสดชื่น มิตรภาพ ความเชื่อถือและความปรองดอง ส่วนประกอบหลักของชีวิตคือน้ำ คือคิดเป็นประมาณสองในสามของร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยน้ำ ซึ่งถ้าเราดูสัดส่วนของน้ำและพื้นดินของโลกของเราก็เป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันนั้นก็คือสองในสามนั่นเอง น้ำหรือความรักใคร่ปรองดองเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในองค์กร องค์กรที่ปราศจากน้ำถึงแม้ว่าจะมีผลประกอบการที่ดี แต่ก็จะแห้งแล้งคนทำงานก็ไม่มีความสุข แต่ถ้ามีธาตุน้ำมากจนเกินไป ก็อาจจะรวมหัวกันเล่นมาก จนงานการไม่ทำ สนุกสนานรักใคร่ปรองดอง จนเสียสมดุล 

3. Aspiration – FIRE ธาตุไฟ เปรียบเสมือนแรงบันดาล การคิดนอกกรอบ นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ในสิ่งใหม่ๆ ซึ่งทั้งหน่วยย่อยอย่างปัจเจกบุคคลจนถึงองค์ประกอบที่ใหญ่ขึ้นอย่างองค์กร จำเป็นที่ต้องใส่เรื่องแรงบันดาลใจ รวมถึง Passion ในการทำงานลงไป รวมถึงการใช้ชีวิต ถ้าเราไม่ได้รับพลังงานแสงแดด ไม่ Outdoor วันๆ อยู่แต่ในห้องแอร์​ชีวิตที่จะราบเรียบ ขาดสีสัน หรือไม่สบายก็ได้ องค์กรไหนธาตุไฟน้อยๆ ก็จะจำเจ ยิ่งมีธาตุดินกับน้ำเยอะในองค์กรก็จะทำแต่สิ่งเดิมๆ แต่ถ้าองค์กรไหนมีธาตุไฟมากจนเกินไปแล้ว ก็จะใช้อารมณ์ในการทำงานมากจนเกินไป ชอบการเอาชนะจนกลายเป็นแพ้ไม่เป็นเลยทีเดียว 

4. Adaptation – AIR ธาตุลม เปรียบได้เหมือนการเปลี่ยนแปลงหรือเรื่อง Transformation ที่นำเอาเรื่องพลวัตและการไม่อยู่กลับที่เข้ามา องค์กรไหนถ้ามีทั้งไฟและธาตุลมมากจนเกินไปแล้ว ก็จะ Obsess กับเรื่องการเปลี่ยนแปลง การมองไปข้างหน้า จนบ้างครั้งสูญเสียพลังไปกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง การให้น้ำหนักในเรื่องของการเปลี่ยน มากกว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าองค์กรไหนมีธาตุลมน้อยก็จะยึดติดกับสิ่งที่เรารู้แบบเดิมๆ ไม่ดิ้นรนที่จะมองหาสิ่งใหม่ๆ 

5. Accomplishment – SPACE ธาตุอากาศ ซึ่งถ้าดูความหมายทางภาษาที่เกี่ยวข้องกับทางศาสนาจะเห็นว่ามีความหมายลึกซึ้งมากไปกว่าอากาศอย่างที่เราเข้าใจ ความหมายที่มักจะพูดถึงรวมไปถึง เรื่องของที่ว่าง ความว่าง ความเป็นไปได้ การตระหนักรู้ การภาวนา เมื่อมีคำถามที่ว่า ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ มีสัดส่วนของธาตุในร่างกายของคนเราเป็นเท่าไร คำตอบคือทั้งสี่ธาตุเมื่อนำมารวมกันจะมีสัดส่วนกว่า 94% ดังนั้นพื้นที่ของอากาศจะมีอยู่แค่ 6% เท่านั้นเองเหรอ คำตอบคือถ้าเราภาวนาและสามารถยกระดับสภาพจิตที่มนุษย์มีศักยภาพในเรื่องนี้อยู่กับตัว แต่จำเป็นที่ต้องอาศัยการฝึกฝน สัดส่วนของอากาศสามารถที่จะขยายไปมากกว่า 6% เพราะพื้นที่ได้ถูกขยายมากไปไม่มีขอบเขตและไม่มีประมาณ  

28

และที่สำคัญ Accomplishment จะเป็น The Fifth Element ที่สำคัญที่ผู้บริหารจะขาดไม่ได้นั้นก็คือพื้นที่ว่าง ที่เป็นพื้นที่ของสติจะสามารถแทรกตัวเข้ามา เพื่อทำให้การตัดสินใจของผู้บริหาร มีสติเป็นพื้นคู่คิดหรือ Sati-Space นั้นเอง โดยธรรมชาติและแนวคิดในเชิงศาสนาของทางตะวันออกและตะวันตก เรามักที่จะใช้น้ำหนักแค่เพียงสี่ธาตุคือ ดิน น้ำ ไฟ ลม มีแต่ความคิดที่เป็นต้นทางของศาสนาฮินดูและพุทธ มีมองถึงเรื่องศักยภาพของจิตที่สามารถที่จะถูกพัฒนาและมีศักยภาพที่จะสร้างสมดุลของชีวิต รวมถึงการอยู่กับธรรมชาติตามความเป็นจริง รวมถึงแนวคิดที่ว่าเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราจะไม่เบียดเบียนผู้คนและธรรมชาติ เพราะเมื่อถ้าธรรมชาติเสียสมดุล เราเองก็มิอาจรักษาสมดุลของเราได้ในที่สุด 

ภาพประกอบ Blog

Source: บทความจาก Workshop: The Leadership Elements