Introduction
เมื่อเกิดภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลลึกซึ้งต่อจิตใจของทุกคนด้วย แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ ทำให้หลายคนรู้สึกสั่นสะเทือนทั้งร่างกายและจิตใจ ในฐานะองค์กร การเข้าใจและดูแลสภาพจิตใจของพนักงานไม่ใช่เพียงเรื่องของความเห็นอกเห็นใจเท่านั้น แต่เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทั้งองค์กรและทุกคนสามารถฟื้นตัวและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจวิธีที่องค์กรสามารถโอบอุ้มดูแลพนักงานในช่วงหลังเกิดภัยพิบัติ ด้วยความเข้าใจว่าบาดแผลทางใจที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และเราสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยเยียวยาและสนับสนุนกันและกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ได้
Understanding Post-Disaster Trauma Responses
หลังจากเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญอย่างแผ่นดินไหว เป็นเรื่องธรรมดาที่พนักงานอาจแสดงปฏิกิริยาทางร่างกายและจิตใจที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การแสร้งทำหรือความอ่อนแอ แต่เป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของเราต่อสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา:
อาการที่พบได้บ่อยหลังเกิดแผ่นดินไหว
- ความกังวลเมื่ออยู่ในตึกสูง: หลายคนอาจรู้สึกอึดอัดหรือกลัวเมื่อต้องกลับเข้าไปในอาคารสูง โดยเฉพาะอาคารที่มีลักษณะคล้ายกับที่พวกเขาอยู่ตอนเกิดแผ่นดินไหว
- Phantom quakes: หลายคนอาจรู้สึกเหมือนพื้นยังคงสั่นไหวอยู่ แม้ว่าแผ่นดินไหวจะผ่านไปแล้วหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ความรู้สึกนี้มีชื่อเรียกว่า “แผ่นดินไหวหลอน” หรือ “earthquake sickness”
- อาการวิงเวียนและเวียนศีรษะ: ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นจริงทางกายภาพ เมื่อสมองของเรายังคงตื่นตัวและไวต่อการเคลื่อนไหวหลังเกิดแผ่นดินไหว
- สมาธิสั้นลง: ระบบตอบสนองต่อความเครียดในร่างกายอาจยังทำงานอยู่ ทำให้การจดจ่อกับงานเป็นเรื่องยาก
- ปัญหาการนอน: ฝันร้าย หรือนอนไม่หลับเพราะร่างกายอยู่ในสภาวะเฝ้าระวังมากเกินไป เป็นสิ่งที่พบได้บ่อย
- อารมณ์แปรปรวน: การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์กะทันหัน หงุดหงิดง่าย หรือปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่ไม่คาดคิด อาจเกิดขึ้นขณะที่สมองกำลังประมวลผลประสบการณ์สะเทือนขวัญ
Immediate Support Strategies for Organizations
ในช่วงวันแรกๆ หลังเกิดเหตุการณ์ องค์กรควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทั้งทางกายและทางใจของพนักงาน:
1. ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทั้งทางกายและทางใจ
- สื่อสารเรื่องความปลอดภัยของอาคารอย่างชัดเจน: แบ่งปันข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการตรวจสอบโครงสร้างและมาตรการความปลอดภัยที่ได้ดำเนินการหลังแผ่นดินไหว
- เปิดทางเลือกในการทำงานที่ยืดหยุ่น: เสนอตัวเลือก work from home สำหรับพนักงานที่ยังรู้สึกไม่สบายใจที่จะกลับเข้าอาคารสำนักงาน โดยเฉพาะอาคารสูง
- จัดพื้นที่ปลอดภัย: กำหนดพื้นที่ทำงานในชั้นล่างๆ สำหรับพนักงานที่รู้สึกกังวลเมื่อต้องอยู่ในที่สูง
2. ยอมรับผลกระทบทางอารมณ์
- ยอมรับความรู้สึกของทุกคน: พูดคุยให้ทุกคนเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นความกังวล ความรู้สึกว่าพื้นยังสั่น หรืออาการอื่นๆ ล้วนเป็นปฏิกิริยาปกติต่อสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
- นำด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ: ฝึกให้ผู้จัดการสังเกตสัญญาณความเครียดและตอบสนองด้วยความเมตตา ไม่ตัดสิน
- เปิดพื้นที่ให้แบ่งปันความรู้สึก: จัดช่วงเวลาพูดคุยที่พนักงานสามารถเลือกเข้าร่วมและแบ่งปันประสบการณ์ได้หากพวกเขาต้องการ
3. มอบความยืดหยุ่นและการปรับตัว
- ปรับความคาดหวัง: ยอมรับว่าประสิทธิภาพการทำงานอาจลดลงชั่วคราวในช่วงที่ทุกคนกำลังปรับตัว
- ยืดหยุ่นเรื่องเวลา: อนุญาตให้เริ่มงานช้าลงได้หากพนักงานนอนไม่หลับ หรือต้องการเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น
- ปรับการประเมินผลงาน: พิจารณาปรับเกณฑ์การวัดผลงานชั่วคราวให้สอดคล้องกับสถานการณ์พิเศษนี้
Medium and Long-Term Support Strategies
เมื่อความตกใจเริ่มบรรเทาลง องค์กรควรวางระบบสนับสนุนที่ยั่งยืนในระยะยาว:
1. สร้างแหล่งช่วยเหลือที่ครอบคลุม
- Employee Assistance Programs: ทำให้มั่นใจว่าพนักงานทุกคนรู้วิธีเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตผ่านสวัสดิการบริษัท
- Trauma-informed counseling: จัดให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านบาดแผลทางใจจากภัยพิบัติไว้ให้คำปรึกษา
- Peer support networks: สนับสนุนให้เกิดกลุ่มพูดคุยแบบไม่เป็นทางการระหว่างพนักงานที่มีประสบการณ์คล้ายกัน
2. ฝึกผู้จัดการให้เป็นผู้นำที่เข้าใจบาดแผลทางใจ
- การรับรู้สัญญาณ: ช่วยให้ผู้จัดการสามารถสังเกตเห็นสัญญาณความทุกข์ที่อาจต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
- การสนทนาที่ให้กำลังใจ: แนะนำวิธีพูดคุยที่ช่วยสนับสนุนโดยไม่ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว
- การแนะนำแหล่งช่วยเหลือ: ทำให้มั่นใจว่าผู้นำรู้ว่าเมื่อไรและอย่างไรที่ควรแนะนำพนักงานให้พบผู้เชี่ยวชาญ
3. ปรับโครงสร้างสภาพแวดล้อมการทำงาน
- วางแผนการกลับมาทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไป: พัฒนาแผนการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศเป็นขั้นตอน โดยเฉพาะสำหรับอาคารสูง
- ปรับสภาพแวดล้อม: พิจารณาปรับแสงไฟ ระดับเสียง และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจกระตุ้นความวิตกกังวล
- ซ้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน: จัดให้มีแผนฉุกเฉินที่ชัดเจนเพื่อช่วยฟื้นฟูความรู้สึกมั่นคงและพร้อมรับมือ
Addressing Specific Symptoms
การช่วยเหลือพนักงานที่มีอาการ “แผ่นดินไหวหลอน” และวิงเวียน
ความรู้สึกว่าพื้นยังคงสั่นไหวหรืออาการวิงเวียนเป็นการตอบสนองทางร่างกายที่เกิดขึ้นจริงหลังประสบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ:
- ยืนยันว่าสิ่งที่รู้สึกเป็นเรื่องจริง: ให้ความมั่นใจกับพนักงานว่าอาการเหล่านี้เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยและมีการบันทึกไว้ทางการแพทย์หลังเกิดแผ่นดินไหว
- แนะนำเทคนิค grounding: แบ่งปันวิธีง่ายๆ เช่น การวางเท้าทั้งสองข้างแนบพื้น การมองวัตถุที่อยู่นิ่ง หรือการฝึกหายใจเป็นจังหวะ
- ปรับพื้นที่ทำงาน: จัดที่นั่งให้ห่างจากสิ่งกระตุ้นที่อาจทำให้อาการแย่ลง เช่น หน้าต่างในชั้นสูงที่มองเห็นวิวด้านนอก
- ส่งเสริมการปรึกษาแพทย์: บางคนอาจได้ประโยชน์จาก การปรึกษาแพทย์และการรักษาอื่นๆ หากอาการยังคงอยู่นาน
การจัดการความกังวลเกี่ยวกับอาคาร
ความกลัวเมื่อต้องเข้าหรือทำงานในอาคารสูงหลังแผ่นดินไหวเป็นปฏิกิริยาที่เข้าใจได้และต้องการการดูแลด้วยความอดทน:
- ไม่บังคับ: อย่าเร่งให้พนักงานที่ยังกังวลต้องกลับเข้าไปในสภาพแวดล้อมที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยทันที
- ค่อยๆ ปรับตัว: สำหรับผู้ที่อยากเอาชนะความกลัวนี้ ช่วยสนับสนุนการค่อยๆ กลับเข้าสู่พื้นที่เหล่านั้นทีละนิด ตามความสมัครใจ
- จัดสรรพื้นที่ที่รู้สึกปลอดภัย: จัดให้พนักงานที่กังวลได้นั่งใกล้ทางออก บนชั้นล่าง หรือในพื้นที่ที่รู้สึกมั่นคงกว่า
- แบ่งปันข้อมูลด้านความปลอดภัย: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบอาคาร ระบบความปลอดภัย และมาตรการรับมือแผ่นดินไหวอย่างละเอียด
Creating a Culture of Psychological Safety
นอกเหนือจากมาตรการเฉพาะต่างๆ องค์กรควรสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความกังวล:
- ลดการตีตราเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก: ผู้นำควรเป็นแบบอย่างในการเปิดใจพูดถึงความรู้สึกของตัวเองบ้าง เพื่อช่วยให้ทุกคนรู้สึกว่าการมีปฏิกิริยาต่างๆ เป็นเรื่องปกติ
- สร้างช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย: เปิดโอกาสให้พนักงานได้สื่อสารความต้องการและความกังวลโดยไม่ต้องกลัวการถูกตัดสิน
- เคารพความแตกต่างระหว่างบุคคล: ยอมรับว่าแต่ละคนมีเวลาในการฟื้นตัวที่แตกต่างกัน
- ชื่นชมความเข้มแข็ง: ยกย่องทั้งความเข้มแข็งของแต่ละคนและของทีมในการร่วมกันฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
Conclusion
การดูแลพนักงานหลังเกิดภัยพิบัติต้องอาศัยความเข้าใจว่าผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจที่พวกเขาประสบนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง การสร้างนโยบายและแนวปฏิบัติที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจไม่เพียงช่วยให้พนักงานฟื้นตัวเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรโดยรวมด้วย
โปรดจำไว้ว่าการฟื้นตัวมักไม่ได้เป็นเส้นตรง—บางคนอาจดูเหมือนไม่มีปัญหาในตอนแรก แต่อาจเริ่มมีอาการในภายหลัง ขณะที่บางคนอาจต้องการความช่วยเหลือทันที ด้วยการสร้างระบบสนับสนุนที่ยืดหยุ่น ทรัพยากรที่เพียงพอ และความเข้าใจที่ลึกซึ้ง องค์กรสามารถช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันอย่างมีศักดิ์ศรีและได้รับการดูแล
สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติต่อประสบการณ์ของแต่ละคนด้วยความเคารพและยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ความรู้สึกและความกลัวที่พวกเขาบอกเล่าคือการตอบสนองทางร่างกายและจิตใจที่แท้จริงต่อเหตุการณ์พิเศษ—ไม่ใช่การแสร้งทำหรือความอ่อนแอ ด้วยความอดทน ความเข้าใจ และการสนับสนุนที่เหมาะสม ทั้งตัวบุคคลและองค์กรจะสามารถเติบโตขึ้นจากประสบการณ์นี้ด้วยพลังและความยืดหยุ่นที่มากขึ้น
ด้วยความห่วงใยจาก ADGES