การเฟ้นหาสุดยอดผู้นำองค์กรที่มีประสิทธิภาพ (Talent Leadership Organization)

“เป็นสิ่งที่ HR จะต้องสร้างและเตรียมความพร้อมใหม่ๆ ให้กับองค์กร เพราะถ้าไม่เข้าใจจะทำให้องค์กรไปต่อได้ลำบากเช่นกัน แต่ใครคือ Talent ขององค์กร?”

ภาพที่เราคาดหวังจะเห็นเพอร์เฟ็กต์ทีม บางครั้งอาจนึกถึงวงดนตรีออร์เคสตรา (Orchestra) ที่มีวาทยากรที่บรรเลงเพลงเพราะมากๆ และคนในทีมรู้ว่าจะต้องเล่นดนตรีหนักเบาตรงไหน โดยมีคลิปที่ไปสิงคโปร์ ที่วิทยาลัยทางด้านศิลปะของสิงคโปร์ โดยทั่วไปเข้าใจว่าจะให้ไปนั่งฟังที่คนฟังปกติ แต่โปรเฟสเซอร์ เอียนไรท์ ให้เราไปนั่งแทรกข้างๆ ของนักดนตรี ซึ่งแปลกมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งฟังแบบนี้โดยไม่รู้ว่าต้องการนำเสนออะไร

ซึ่งจะเห็นความแตกต่างที่นักดนตรีใส่ชุดดำ กับคนที่เข้ามานั่งดูและเรียนรู้กับวงออเครสตร้า สิ่งที่เห็นคือ Perfect Organization, Perfect Leadership, Perfect Talent ที่เราต่างอยากเห็นในองค์กร โดยมี Leader on stage ที่จะเห็นการการเล่นเครื่องดนตรีซ้ายขวาและบรรเลงเสียงหนักเบาตามที่วาทยากรขับเคลื่อน เพราะทุกคนรู้บทบาทของตัวเอง

คำถามคือ มีทักษะอะไรที่เห็นจากคลิปนี้ ทีตั้งแต่ Execution, Communication, Leadership Vision แต่ในความเป็นจริงมีกี่องค์กรที่สามารถสร้าง Leadership Culture Talent แบบในวงออเครสตร้าที่เราเห็น และโอกาสเกิดขึ้นก็น้อยลงเรื่อยๆ เพราะเราไม่รู้เลยว่า

  • ลูกค้าที่เข้ามาชื่นชมนั้น เขายังอยากฟังเพลงเดิมหรือเปล่า จริงๆ เขาอาจต้องการฟังเพลงอื่นแล้ว เพลงเก่ามันน่าเบื่อ อย่างวงอื่นหรือคู่แข่งเขาอาจจะบรรเลงที่น่าสนใจมากกว่า
  • นักดนตรีที่เข้ามามีรูปแบบที่หลากหลาย นั่นหมายความว่า ในองค์กร Look & Feel ไม่ได้เหมือนเดิม โดยจะมาคาดหวังว่าทุกคนใส่ชุดดำนั่งเรียบร้อย ซึ่งปัจจุบันไม่ใช่แล้ว เพราะยังมีเรื่องช่องว่างระหว่างวัย (Generation Gap) ไลฟ์สไตล์การทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น Talent ไม่ใช่เฉพาะพนักงานที่มีการเซ็นสัญญาหรือการทำงานของบริษัทโดยตรง แต่ความจริง Talent สามารถหาได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคนในองค์กรหรือนอกองค์กรก็ได้
  • คอนเซ็ปต์ Talent ไม่ใช่คอนเซ็ปต์ใหม่ ซึ่งหากย้อนประวัติศาสตร์ไป 2,000 กว่าปี หรืออย่างในบทบาทของวงออเครสตร้า ในมุมของการสร้างอาณาจักร การสร้างชุมชน ปกติจะมี Leader 1 คน และมีคนที่ไม่ได้มีกลยุทธ์อะไรมากแต่ก็สำคัญในชุมชนนั้น เพราะต้องทำงานอยู่ข้างล่างเพื่อตอบสนองคนที่อยู่ในระดับบน ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกที่ทุกชุมชนในโลกนี้ก็จะมีเรื่องซ้ำๆ แบบนี้

เพราะฉะนั้นเป็นจุดเดิมที่เป็นจุดสำคัญว่า ถ้าเราต้องสร้างเรื่อง Talent ขึ้นมา อะไรเป็นประเด็นหรือสิ่งสำคัญโดยขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยนี่แล้วที่จะทำให้เห็นองค์กรที่ชัดขึ้นว่าอะไรกันแน่เป็นสิ่งที่เราควานหาจาก Talent

123

หนึ่งในสามผู้เขียน The Leadership Code บอกว่า เรามักจะเริ่มต้นจากคำถามง่ายๆ ว่า

“อะไรคือการทำให้คุณเป็นผู้นำที่ดี”

ซึ่งถือเป็นคำถามที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าเราไม่ใช่คนกลุ่มแรกที่ถามมัน เพราะตอนที่เราค้นคำว่า

“ผู้นำ” และ “ความเป็นผู้นำ”

เราเจอผลลัพธ์กว่า 25-30 ล้านคำตอบ เพราะเราเริ่มถามช้ากว่าคนอื่น ดังนั้น เราเลยเลือกทำสิ่งที่ต่างออกไป และแทนที่จะปั้นทฤษฎีใหม่เรื่องการเป็นผู้นำขึ้นมา เราเลือกจะมองจากสิ่งที่มีอยู่แล้วดูว่ามีส่วนที่คล้ายคลึงกัน แล้วนำมาสรุปพร้อมปรับใช้ได้บ้างหรือไม่โดยต้องตอบคำถามที่กล่าวมาได้ เราจึงเลือกใช้วิธีที่เรียบง่ายสุดด

จากนั้นไปพบกับผู้นำที่คิดว่ายอดเยี่ยมสุดประมาณ 15-20 คน ที่เขียนหนังสือมาแล้ว 4-5 เล่ม และทำ Leadership 360 มากกว่า 15-20 ปี และเป็นบุคคลที่คนรู้จัก โดยเริ่มต้นถามว่าเคยทำ 360 กันมาแล้วกันเท่าไร คำตอบที่ได้คือรวมกันมากกว่า 2 ล้าน โดยจะมีการประเมินจากคำถามจากพวกเราอยู่ 2 ข้อคือ

  • กี่เปอร์เซ็นต์ของการจะเป็นผู้นำที่ดีมีรากฐานมาจากสิ่งเดียวกัน ซึ่งพบว่าผู้นำทุกแห่งที่ไม่ว่าจะเป็นระดับแนวหน้าหรือทั่วไป หรือเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรือเล็ก จะเป็นบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ เป็นบริษัทในประเทศหรือนานาชาติก็ตาม อะไรคือปัจจัยหลักที่ผู้นำทุกคนจะต้องรู้และทำได้ ปรากฎว่าคำตอบที่ได้รับน่าเหลือเชื่อว่าเพราะ 50-85% บางคนบอกมี และ 50 % ที่บอกว่าต่างกัน หรือบ้างก็บอก 15 % หรือตอบว่า 50 % คือสิ่งเดียวกัน หรือ 85 % แต่ของเราคือ 60-70 % ของสิ่งที่ผู้นำทุกคนต้องรู้และทำได้คือสิ่งเดียวกัน
  • สิ่งนั้นคืออะไร? ซึ่งส่วนนี้คือสิ่งที่พวกเขาได้แนะนำหนังสือตัวเอง เราจึงได้ศึกษาจากโมเดลของบริษัทต่างๆ เพื่อวิเคราะห์และหาคำตอบของการเป็นผู้นำที่ดี และอะไรคือสิ่งที่เหมือนกันที่ผู้นำจากทุกบริษัทต้องทำ ซึ่งเราเรียว่า “รหัสลับความเป็นผู้นำ” (The Leadership Code) โดยเนื้อหาในหนังสือก็เป็นเรื่องพื้นฐาน

124

แต่ปัจจัยหลักที่แท้จริงของความเป็นผู้นำที่หลังจากได้ศึกษา พบว่ามีทั้งหมด 5 ข้อหลัก โดยให้นึกถึงกระดาษที่มี 4 มุม แล้วมีวงกลมอยู่ตรงกลาง

(1) วางแผนกลยุทธ์ (Strategist) ซึ่งถ้าอยากเป็นผู้นำที่ดี ต้องเริ่มจากจัดสัดส่วนให้เป็นก่อน โดยจุดสูงสุดของบริษัทคือองค์กรทั้งหมด ในส่วนการทำงานของบริษัทก็คือการทำงาน ส่วนทีมในองค์กรก็คือทีมของคุณ แต่ต้องรู้ว่าแต่ละส่วนจะก้าวไปในทิศทางไหน ขณะที่คุณนำพวกเขา

(2) นักปฏิบัติการหรือต้องเป็นคนที่ทำงานได้ลุล่วง (Executor) ที่พึ่งพาได้ มีระเบียบวินัย มีความสามารถพอจะทำให้งานสำเร็จและออกมาดี

(3) นักบริหารบุคคลที่มีศักยภาพ (Talent Manager) ซึ่งคำว่า “ผู้นำ” ที่ตรงความหมายคือ ต้องทำงานกับผู้อื่น ต้องเข้าหา สื่อสาร ทำงาน และสานสัมพันธ์กับพวกเขา ที่สำคัญคือจะต้องทำให้ทุกคนรู้สึกได้ว่าเขากำลังอยู่ในทีมที่ดี

(4) นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล (Human Capital Developer) โดยต้องเป็นคนที่ปั้นทีมรุ่นต่อๆ ไปไว้ให้องค์กรได้ และต้องรู้จักวางแผนผังแรงงาน สร้างแบรนด์ให้กับบริษัท และต้องรู้ว่าความสามารถส่วนไหนที่จำเป็นในอนาคต

“โดย 4 หน้าที่ของการเป็นผู้นำ นักวางแผนกลยุทธ์ที่ต้องรู้ว่าเรากำลังก้าวไปทางไหน? โดยนักปฏิบัติงานจะต้องรู้ว่าเราจะเดินทางไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร และนักบริหารบุคคลที่มีศักยภาพต้องรู้ว่าใครที่จะก้าวไปกับเราได้บ้าง ขณะที่นักพัฒนาทรัพยากรบุคคลจะต้องรู้ว่าเราจะฝากใครไว้ให้บริษัทได้บ้าง”

จากที่ได้ศึกษามารู้ว่าผู้นำส่วนใหญ่มีหนึ่งในสี่ส่วนนี้อยู่แล้ว ซึ่งผู้นำส่วนใหญ่จะมีทักษะพวกนี้อยู่ก่อนคือ นักวางแผนกลยุทธ์และวางแผนอนาคต ชอบเป็นนักบริหารบุคคลที่มีศักยภาพและการทำงานกับผู้คน และชอบเป็นนักปฏิบัติการที่ทำทุกอย่างให้ลุล่วง แต่ที่เราค้นพบในจุดกึ่งกลางคือมีปัจจัยหลักที่ผู้นำทุกคนจำต้องทำ

(5) ความถนัดส่วนตัว (Personal Proficiency) เพราะไม่ใช่ตำแหน่ง แต่คือความสามารถของบุคคลที่ทำให้ผู้ตามเชื่อมั่นในคนๆ นั้น  โดยความเก่งกาจในตัวเองจากการรู้ซึ้งถึงตัวตนของคุณ นั่นคือ ความสามารถในการเข้าใจตัวเอง ในการเรียนรู้ และมีความซื่อสัตย์ที่มีการควบคุมอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมและตัดสินใจได้ดี

ทั้งหมดนี้เชื่อว่านี่คือ “รหัสลับของการเป็นผู้นำ” นักปฏิบัติการ นักบริหารบุคคลที่มีศักยภาพ นักทรัพยากรบุคคล และมีความถนัดส่วนตัว ที่จะช่วยเชื่อมให้คุณเข้ากับผู้อื่นได้ และเป็นหนังสือที่เข้าใจได้ง่ายมาก ถ้าอยากจะเป็นผู้นำที่ดีทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ควรรู้และต้องปฏิบัติ โดยต้องเข้าใจตัวเองด้วยว่ามีความเก่งทางด้านไหน ซึ่งหากได้เริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้และได้ศึกษาจากการงานของผู้นำทั้งหลาย ทั้งหมด 4-6 ข้อที่กล่าวมากจะสามารถช่วยทำให้คุณเป็นผู้นำที่ดีได้

125

และหนึ่งในนั้นคือการมองกลับไปที่ตัวคุณเองในฐานะผู้นำว่า ฉันอยู่ในระดับไหนและฉันทำได้ดีแค่ไหน จึงทำให้สร้างแบบสำรวจออนไลน์ขึ้นมา แบบสำรวจจะทำให้สามารถวิเคราะห์คะแนนตัวเองได้และยิ่งไปกว่านั้น คุณยังรับความเห็นจากคนอื่นได้ด้วยที่จะได้รู้ว่าคนอื่นมองคุณแบบไหน ในฐานะนักวางแผนกลยุทธ์ นักปฏิบัติการ นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล และนักบริหารบุคคลที่มีศักยภาพ ซึ่งจากผลตอบรับนั้นจะทำให้ได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองโดยจุดมุ่งหมายของหนังสือเล่มนี้่มันเรียบง่ายมาก ถ้าอยากจะเป็นผู้นำที่ดี นี่คือสิ่งที่ต้องทำ ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงแค่พื้นฐานแต่ยังไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมด แต่เป็นพื้นฐานที่จะทำให้คุณไปสู่การเป็นสุดยอดผู้นำ

เรื่อง : ดร.ณัฐวุฒิ กุลนิเทศ

ออกแบบหลักสูตรให้เหมาะสมกับองค์กรเพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาบุคลากรให้เหมาะสมกับองค์กรและคุ้มค่าต่อการลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ADGES e-mail: marketing@adges.net หรือ 088-028-1111 หรือเว็บไซต์ www.adges.net