Transformation is a journey, not a destination

Webinar Director’s Briefing : What is Business Transformation Actually?

ขอขอบคุณทาง Thai Institute of Directors (IOD) ที่ให้โอกาสให้ทาง Business Transformation Community of Practice และขอขอบคุณ Panelist ทุกท่านที่สละเวลามาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่อง Business Transformation Journey ในองค์กรของแต่ละท่าน ที่กำกับดูแลอยู่นะครับ

ไม่น่าเชื่อว่าคุยกันยาวเกือบสองชั่วโมง เป็น Panel ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคย Moderate มา แต่ Comment ล่าสุดที่ได้ก็คือเวลาก็ยังน้อยไป เพราะแต่ละท่านมีประสบการณ์และมุมมองในเรื่อง Transformation ที่น่าสนใจ ตลอดสองชั่วโมงก็ได้เรียนรู้จากผู้เข้าร่วม Panel เยอะมาก

“โดยบทสรุปที่สำคัญในเรื่องของ Business Transformation ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในโลกของธุรกิจที่องค์กรจะต้องหา WHY และ HOW ขององค์กรให้เจอ”

ก่อนที่จะรู้เรื่อง HOW แต่ละองค์กรคงมี Paint Point และ Reason for Change ที่แตกต่างกัน และ Transformation คงไม่ใช่แค่เป็น Single Event แต่คงเป็นเหมือนกับ Journey ที่องค์กรจะต้องเจออยู่ทุกวัน แต่เมื่อหาเจอแล้วหัวข้อ 8 หัวข้อด้านล่างเป็นหัวข้อที่ได้ยิน Panelist พูดถึงบ่อยมากในการทำพูดคุยในครั้งนี้ เลยขออนุญาตนำมาสรุปเอาไว้ดังนี้

1. Purpose – อย่างที่ Simon Sinek พูดไว้

“‘Start with WHY’ การทำเรื่อง Transformation ควรตั้งต้นที่ว่าองค์กรเรามีเป้าประสงค์ (Purpose) ในเรื่องใด เราต้องการที่จะ Address Pain Point และสร้าง Value ให้โลกใบนี้ในเรื่องใด การวาง Purpose ให้ชัดเจน จะช่วยทำให้องค์กรไม่หลงประเด็น และสามารถหาแนวร่วมจาก Talent ที่มีความเชื่อคล้ายกันและอยากที่จะสร้าง Purpose ขององค์กรให้เป็นจริง”

aad792 daa8c8fc98cb415e9813463ed52ba3e6mv2

2. Vision – เมื่อเป้าประสงค์ชัดเจนแล้ว อะไรคือวิสัยทัศน์ที่คนในองค์กรมองไปด้วยกัน ในวันนี้ Panelist หลายคนพูดว่า

“อย่าหวังว่าการเดินไปตามวิสัยทัศน์ของเราจะเป็นเรื่องง่าย เพราะถ้าง่ายคนอื่นก็ทำไปแล้ว”

“รวมถึงเรื่องที่ว่า อย่าท้อแท้ง่ายๆ อย่ามองแค่ผลสำเร็จข้ามคืนของคนอื่น ซึ่งอาจจะดูสวยหรู แต่ให้นึกถึงภูเขาน้ำแข็ง ที่ความสำเร็จอาจจะเป็นเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง แต่ความผิดพลาด ล้มเหลวเป็นเหมือนกับส่วนที่ใหญ่กว่าที่อยู้ใต้น้ำ เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะล้มเหลว เพราะยังไงก็เจออยู่แล้ว

aad792 0ce4ae3f95bb4a728e8976d9e85e3adfmv2

3. Leadership – เนื่องจากกลุ่มผู้ฟังเป็นผู้บริหารระดับสูง วันนี้เลยมีการพูดถึงความสำคัญของผู้บริหารระดับสูงต่อ Business Transformation จนสรุปได้ว่า

“Transformation จะไม่เกิด ถ้า Leader ไม่เปลี่ยน”

หลายองค์กรอยากได้วัฒนธรรมในเรื่องนวัตกรรมจนลงทุนเปลี่ยนแปลง Office ตัวเองให้สวยเหมือน Google มีอาหารฟรี มี Sleeping Pod แต่สุดท้ายวัฒนธรรมองค์กรก็ยังไม่เกิด

คำถามคือ Leadership Mindset ได้เปลี่ยนตามหรือไม่ หรือองค์กรยังยึดติดกับ Seniority จนไม่ฟังเด็กรุ่นใหม่ ทั้งที่ Gen ใหม่รู้เรื่อง Technology ดีกว่า

aad792 a1c5cb825d71498e86fcd945e2725089mv2

4. People – การขาย Idea เรื่อง Transformation ให้ผู้บริหารด้วยกันนับว่ายากแล้ว แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการขาย Idea ให้กับเพื่อนพนักงานในองค์กร ในเรื่องของ Why Change ขั้นตอนการจัดการเรื่อง Change Management ที่เรียกว่า ADKAR เป็นสิ่งที่ผู้นำในองค์กรจะต้องสร้างระบบในการจัดการการเปลี่ยนแปลงให้เป็นระบบ โดยสามารถใช้ ADKAR เป็น Framework For Change A – Awareness, D – Desire, K – Knowledge, A – Ability และ R – Reinforce โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Reinforce ที่องค์กรมักที่จะมองข้าม

aad792 11ed5834c48d43bba73b8d655e73cce7mv2

5. Organization – การวาง Structure ขององค์กรก็มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การ Transform องค์กรขนาดใหญ่

“ถ้าจะเปลี่ยนทั้งองค์กรอาจจะใช้เวลานาน แต่ถ้าองค์กรสามารถ Spin Off เป็นองค์กรขนาดเล็ก ที่สามารถขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรได้เร็วกว่า แต่ก็สามารถที่จะอาศัยจุดแข็งของบริษัทแม่ที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแรงและมีฐานลูกค้าที่มากเพียงพอ”

อาจจะทำให้ Business Transformation มีโอกาสแจ้งเกิด เนื่องมาจากการออกแบบองค์กรที่สามารถ Operate และ Deliver ภายใต้ร่มเงาขององค์กรขนาดใหญ่

aad792 47e2a478b40e4aa5ac31d48997f2ff1amv2

6. Culture – จากการทำ Survey เรื่องความพร้อม (Readiness) และความสำคัญ (Importance) เป็นที่น่าสนใจว่าผู้ตอบแบบสำคัญมองว่า Culture มีความสำคัญน้อยกว่าเรื่อง Vision และ Leadership ทั้งๆ ที่ผู้ตอบแบบ Surrey ก็ทราบว่าองค์กรมีความพร้อม (Readiness) ในเรื่อง Culture ในระดับต่ำ ตรงนี้ค่อนข้างสวนทางกับข้อมูลงานวิจัยจากต่างประเทศพอสมควร วันนี้ Panelist หลายท่านก็ Confirm ว่า

“การสร้างนวัตกรรมการ Take Risk การยอมรับความผิดพลาด เป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างสวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้นในองค์กร ซึ่งทุกคนอยากทำงานที่ไม่ต้องเสี่ยงมาก และรู้ผลลัพธ์ค่อนข้างแน่นอน เพราะผลตอบแทนรวมทั้งชื่อเสียง ขึ้นอยู่กับการทำงานให้สำเร็จ มากกว่าผลตอบแทนก็น่าจะได้เยอะกว่าความกล้าเสี่ยง เสี่ยงแล้วอาจจะล้มเหลวจนอาจจะกลายเป็นตราบาปไปเลยก็ได้”

aad792 2da6af8717c34bbc9cda652c5901620fmv2

7. Network

“ไม่มีองค์กรไหนสามารถสร้างวัฒนธรรมได้ด้วยเพียงลำพัง”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรามองในเรื่อง Impact of Innovation ดังนั้นการสร้าง Innovation Eco-System เป็นหัวใจสำคัญในการต่อยอดนวัตกรรมที่ทำให้เห็นผลในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นการเข้าใจเรื่อง Customer Insight รวมถึงการสร้าง Partnership ถือว่าเป็น Textbook Classic ในเรื่องการสร้างนวัตกรรม ถ้ากลับมามองในเรื่อง Business Transformation ในเมืองไทย การสร้าง Network ของคนที่มีความสนใจหรือ Pain Point คล้ายๆ กันถือว่าเป็นความจำเป็นในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

aad792 c82312b75fb64529b9ffbe38e6fdbabemv2

8. Capabilities – สุดท้ายการสร้างเรื่อง Skill Capabilities เป็นหัวใจสำคัญที่จะแปลทุกสิ่งอย่างที่กล่าวมาข้างต้น จนกลายมาเป็น Competitive Advantage ที่ Stakeholders ต่างๆ โดยอย่างยิ่งลูกค้าจะสามารถสัมผัสได้ ทุกองค์กรมีการทำเรื่อง Reskill และ Upskill แต่หลายองค์กรมุ่งเน้นแต่การสร้าง Content ใหม่โดยไม่ได้มองในเรื่องของ Business Context ที่เปลี่ยนไป รวมถึงไม่ได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทักษะที่เรากำลังสร้างให้เกิดในองค์กรจะสามารถมาตอบโจทย์ในเรื่องของ Business Performance ได้อย่างไร

“อุปมาเหมือนกับดวงตาที่มองไปในอนาคตตาม Vision และ Purpose แต่ขาที่เป็น Organization Capabilities ที่ไม่ได้ทำงานอย่างสัมพันธ์กัน แน่นอนที่สุดเราคงไม่สามารถเดินไปในจุดที่องค์กรฝันไว้”

สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณ Panelist ทุกท่านอีกครั้งครับ เป็นสองชั่วโมงที่มีประโยชน์มากครับ ฝากติดตามกิจกรรมของทาง COP – Business Transformation ที่คราวนี้เราวางไว้ไปข้างหน้าอีกหกเดือน ซึ่งไม่ยากเท่าไรเพราะมี Community Member ที่เก่งรับไปคนละงานสองงานก็ได้เกือบครึ่งปีแล้วครับ