การสูญเสียพนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นเรื่องยากสำหรับองค์กร มันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบถึงกำลังใจในการทำงานและผลผลิตของบริษัทเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การเพิ่มต้นทุนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การโพสท์ตำแหน่งงานว่าง
- การสรรหาและว่าจ้าง
- เวลาที่ใช้ในการสัมภาษณ์ผู้สมัคร
- การอบรมพนักงานใหม่
- การสร้างทักษะให้พนักงานใหม่
การมองหาสมาชิกใหม่ของทีมเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอย่างมาก ทำให้ฝ่าย HR มุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกระบวนการจ้างงาน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญไม่แพ้กันก็คือการลงทุนในกลยุทธ์เพื่อรักษาพนักงาน (Retention) เอาไว้ขณะที่พวกเขายังอยู่กับองค์กร
กรณีตัวอย่างของการเพิ่มอัตราเก็บรักษาพนักงาน
ต้นทุนการเทิร์นโอเวอร์พนักงานขึ้นอยู่กับบทบาทหน้าที่ ประสบการณ์และทักษะเฉพาะบุคคล งบประมาณบางช่วงอาจสูงเป็นสองเท่าของเงินเดือนสำหรับตำแหน่งผู้บริหารเลยทีเดียว
ดังนั้น ขณะที่คุณประเมินกลยุทธ์การเก็บรักษาพนักงาน อย่าลืมพิจารณาผลประกอบการประจำปีของบริษัทรวมถึงเงินเดือนเฉลี่ยของพนักงานเพื่อมองหาต้นทุนที่แท้จริงให้กับองค์กร ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยทำให้ตระหนักถึงลกระทบจากการไม่ลงทุนในการมีส่วนร่วมของพนักงาน
7 กลยุทธ์เพื่อการเก็บรักษาพนักงาน
1. การจ้างงาน (Onboarding)
“Glassdoor กล่าวว่า องค์กรที่มีกระบวนการจ้างงานที่แข็งแกร่งช่วยพิ่มอัตราการเก็บรักษาพนักงานใหม่ได้ถึง 82 เปอร์เซ็นต์ เพราะบริษัทมอบประสบการณ์เชิงบวกให้พวกเขาจนทำให้พนักงานใหม่มีแนวโน้มยึดติดกับองค์กรมากขึ้น”
ดังนั้น ควรลืมลงทุนให้กับ เวลา การวางแผน และประสบการณ์เชิงบวกสำหรับการจ้างงานใหม่ทุกครั้งตั้งแต่วินาทีแรกที่พนักงานตกลงทำงานร่วมกับคุณ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีอย่างน้อย 90 วันแรกให้กับพวกเขา จะทำให้การจ้างงานส่งผลกระทบเชิงบวกมากขึ้นโดยการนำเครื่องมืออย่าง Emergenetics® มาใช้ร่วมกับกระบวนการของคุณได้
2. การฝึกอบรมและพัฒนา (Training and development)
“พนักงานชื่นชอบบริษัทที่ลงทุนในความสำเร็จ จากรายงานของ LinkedIn เผยว่า พนักงานร้อยละ 93 จะอยู่กับบริษัทนานขึ้นหากพวกเขาได้รับการลงทุนในอาชีพ”
ดังนั้นเพื่อการเก็บรักษาพนักงาน เราจึงควรสร้างโอกาสในการฝึกอบรมและการพัฒนาที่สนับสนุนความต้องการของผู้นำ ผู้มีส่วนร่วม และสมาชิกทีม ลองพิจารณาว่าโปรแกรมการฝึกอบรมแบบใดที่เหมาะสมกับพนักงานและทักษะที่พวกเขาต้องการมากที่สุดเพ่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การกำหนดจุดแข็ง (Strengths-based assignments)
โฟกัสไปที่จุดแข็งของพนักงานแต่ละคนเพื่อให้โอกาสในการเชื่อมโยงและส่งเสริมการเก็บรักษาพนักงาน กลยุทธ์หนึ่งในการค้นพบจุดแข็งของพนักงานคือ การใช้เครื่องมือแบบประเมิน Emergenetics Profile และจากข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณลักษณะ การคิด และพฤติกรรม พนักงานจะสามารถเข้าใจจุดแข็งของตัวเองและมีส่วนร่วมกับงานได้ดีขึ้น
4. การสื่อสาร (Communication)
“การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพคือส่วนหนึ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรและการมีส่วนร่วมของพนักงาน”
การเชื่อมโยงกับพนักงานด้วยการพูดถึงสิ่งที่พวกเขาสนใจจะช่วยกระตุ้นให้พนักงานมีแนวโน้มสนุกกับการทำงานมากขึ้น ดังนั้นลองพิจารณาดูว่า ภายในบริษัทของคุณใช้เครื่องมืออะไรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร และมีโปรแกรมการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารอย่างไรบ้าง
5. การทำงานเป็นทีม (Teamwork)
37 เปอร์เซ็นต์ของพนักงาน กล่าวว่า
“working with a great team”
“การได้ทำงานกับทีมที่ดี”
เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขายังอยู่กับบริษัท ดังนั้นเพื่อเพิ่มอัตราการเก็บรักษาพนักงาน คุณต้องจัดลำดับความสำคัญรวมถึงสร้างโปรแกรมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกในที่ทำงาน ไปจนถึงการจัด Workshop เพื่อให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
6. ค่าตอบแทนและผลประโยชน์ (Compensation and benefits)
เมื่อกล่าวถึงการเก็บรักษาพนักงาน การประเมินด้านผลประโยชน์ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ ส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบโครงสร้างเงินเดือนและโบนัสเพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเดือนที่คุณมอบให้พนักงานเหมาะสมกับตลาดในปัจจุบัน และถึงแม้ว่าองค์กรจะไม่ได้มอบเงินเดือนที่สูง แต่คุณก็สามารถมอบสวัสดิการด้านอื่นให้พนักงานได้ เช่น การดูแลสุขภาพ การให้เวลาว่าง ไปจนถึงการพัฒนาด้านอาชีพ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ส่งผลเชิงบวกทั้งสิ้น
7. การยอมรับ (Recognition)
นอกเหนือจากสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ การรับรู้และสร้างการจดจำให้แก่พนักงานช่วยลดอัตราการเทิร์นโอเวอร์ได้ถึง 31 เปอร์เซ็นต์ คุณสามารถใช้วิธีปฏิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการประกาศความขอบคุณให้พนักงานทั้งบริษัทรับทราบ เพื่อเน้นการทำงานของสมาชิกทีมที่ดีหรือของพนักงานคนใดคนหนึ่ง เพื่อให้พวกเขารู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นมีคุณค่าและความสำคัญ
การสร้างกลยุทธ์เพื่อเก็บรักษาพนักงานต้องมีการลงทุนและความมุ่งมั่น แต่อย่างไรก็ตามการเพิกเฉยต่อสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบเชิงลบสูงกว่ามาก ดังนั้นองค์กรก็ควรหันมาให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาพนักงานที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์กรไปนาน ๆ จะดีกว่า
สนใจนำเครื่องมือ Emergenetics มาใช้เพื่อสร้างกลยุทธ์การเก็บรักษาพนักงานและลดอัตราเทิร์นโอเวอร์ขององค์กร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ADGES e-mail: marketing@adges.net หรือ 6688-028-1111 หรือเว็บไซต์ www.adges.net
Reference : https://www.emergenetics.com/blog/power-up-your-employee-retention-strategies
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- Unveiling the Power of Communication
- Develop Performance ของทีมด้วย Meeting of the Minds
- สร้างทีมให้มีประสิทธิภาพ ด้วย Meeting of the Minds Workshop
- ความเข้าใจและการสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Understand and Shape Workplace Culture)
- วิธีออกแบบโปรแกรมพัฒนาผู้นำให้ประสบความสำเร็จ (Designing Successful Leadership Development Programs)
1 Comment
good content
Comments are closed.